ครองบอลไม่ได้! TSN วิเคราะห์สาเหตุที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟอร์มย่ำแย่ใน 2 เกมแรกซีซั่นนี้

เว็บไซต์กีฬาชื่อดังของสหรัฐวิเคราะห์ว่าทำไมปีศาจแดงถึงทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรในฤดูกาลนี้

จิมมี่ บรรณาธิการของ The Sporting News วิเคราะห์ฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2023-24 โดยกล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถครองบอลได้อย่างที่เคย

ปีศาจแดงประสบปัญหากับฟอร์มที่ไม่น่าประทับใจในช่วงต้นฤดูกาล โดยพวกเขาเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตันไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะพ่ายให้กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในเกมที่ 2 ซึ่งทำให้แฟนบอลวิจารณ์ผลงานใน 2 เกมที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก

บรรณาธิการของเว็บไซต์กีฬาชื่อดังจากสหรัฐอเมริการะบุว่า สาเหตุดังกล่าวมาจากรูปแบบการเล่นของทีมที่เปลี่ยนไป ที่เน้นผู้เล่นที่มีความเร็วมากขึ้นเพื่อกดดันคู่แข่งจากแดนหน้า

อ่านต่อบทความด้านล่าง

“ในฤดูกาล 2022-23 อัตราการครองบอลเฉลี่ยของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจาก 38 เกมในพรีเมียร์ลีกอยู่ที่ 57 เปอร์เซ็นต์ นำเป็นจ่าฝูง” ผู้อำนวยการจิมมี่กล่าวในบทความใน ข่าวกีฬา

“แต่จากสองเกมแรกของฤดูกาล 2023-24 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครองบอลเฉลี่ยเพียง 47.5 เปอร์เซ็นต์ น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์จากฤดูกาลที่แล้ว

“เหตุผลนั้นชัดเจน มันมาจากการพยายามเปลี่ยนสไตล์การเล่นของ เอริก เทน ฮาก นายใหญ่ของทัพปิศาจแดง

“เพราะว่าฤดูกาลนี้ เท็น ฮัก ได้คิดแผนการใหม่ขึ้นมาในหัวของเขา ด้วยการเพรสซิ่งบอลที่ดุดัน ใช้มิดฟิลด์และกองหน้าไล่บี้ในพื้นที่สุดท้ายของคู่ต่อสู้ หวังครองบอลให้เร็วที่สุด

“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตัวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ใน 2 เกมแรกจึงมีแต่ผู้เล่นเร็ว ทั้ง แรชฟอร์ด, การ์นาโช่ และ อ็องโตนี่ หรือกองกลางใช้ผู้เล่นที่พร้อมขยับขึ้นแดนหน้าอย่าง เมสัน เมาที และ บรูโน่ แฟร์นานเดส”

“แต่ที่เสียไปคือการครองบอล จากการใช้ คาเซมิโร่ จับคู่กับ คริสเตียน อีริคเซ่น เพื่อสร้างความแน่นอนในแดนกลาง สามารถคุมจังหวะของเกมได้ กดดันคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้แดนกลางของแมนยูกลายเป็นบอลหน้า-หลัง คือการบุกหรือรับการโจมตี ไม่มีการควบคุมจังหวะของเกมเพื่อให้ได้โมเมนตัม